
เวย์น รูนีย์ ยิงประตูสุดสวยช่วย 'สิงโตคำราม' อังกฤษ บุกเสมอ 'ขุนพล' แซมบ้า ไปแบบสุดมันส์ 2-2 ในศึกฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล กระชับมิตร ทีมชาติ
วันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย.2556
บราซิล 2 - 2 อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย.2556
บราซิล 2 - 2 อังกฤษ
สนาม : มาราคาน่า , ริโอ เดอ จาไนโร
บราซิลเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2014 เปิดใช้งานสนามมาราคาน่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เป็นเกมแรกต้อนรับอังกฤษโดยจะได้แก้มือหลังบุกไปแพ้ที่เวมบลีย์มาแล้วด้วยสกอร์ 2-1 ช่วงต้นเดือนก.พ.
เจ้าบ้านวางหมากเกมรุกโดยส่งเนยมาร์กองหน้าทีมบาร์เซโลน่าประสานงานร่วมกับเฟร็ดโดยมีออสการ์กับฮัลค์คอยสนับสนุน
ในส่วนของแนวรับดาวิด ลุยซ์จับคู่กับติอาโก้ ซิลวาเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ชูลิโอ เซซาร์ยังได้เฝ้าตาข่าย
ด้านสิงโตคำรามที่มีนักเตะถอนตัวไปหลายรายจากอาการบาดเจ็บโดยเฉพาะศูนย์หน้าทั้งแอนดี้ แคร์โรลล์ , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และแดนนี่ เวลเบ็คใช้บริการเวย์น รูนีย์คู่กับธีโอ วัลค็อตต์โดยเจอร์เมน เดโฟที่เจ็บเอ็นร้อยหวายนั่งเป็นตัวสำรอง
สำหรับตำแหน่งแบ็คซ้าย เลห์ตัน เบนส์ได้เสียบแทนแอชลีย์ โคลกัปตันทีมนัดก่อนที่อุ่นเครื่องเสมอกับไอร์แลนด์ 1-1 ที่เวมบลีย์เมื่อวันพุธ และส่งฟิล โจนส์ลงเล่นเป็นเกมแรกในรอบปีกว่าในแดนกลางแทนอเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน อีกทั้งเจมส์ มิลเนอร์ก็ได้ลงบู๊แทนสเตอร์ริดจ์อันเป็นการปรับทัพสามจุด
ทีมแซมบ้าเริ่มบุกใส่อาคันตุกะตั้งแต่ต้นตามคาด แต่ยังไม่มีพิษสงที่จะสร้างปัญหาให้ทีมเมืองผู้ดีเลยตลอด 15 นาทีแรก
กระทั่งนาทีที่ 17 ดานี่ อัลเวสแบ็คขวาจอมบุกก็ลุยขึ้นมาส่องไกลจาก 25 หลา แต่ส่งบอลหลุดเสาสองออกไป
นาทีต่อมา บราซิลน่าจะได้ประตูอย่างยิ่งจากลูกโยนข้ามฟากทางด้านขวาที่เกล็น จอห์นสันเข้าหาบอลได้ก่อน แต่กลับสกัดไม่ดีปล่อยให้เนยมาร์ได้โอกาสจิ้มยิงระยะเผาขน ดีที่ว่าโจ ฮาร์ทขยับออกมาใช้อกบล็อคได้
เกมของเจ้าบ้านเริ่มลงล็อคแล้ว และนาทีที่ 22 เฟร็ดก็ควบบอลจากฝั่งขวาตัดเข้ามาจ่ายให้เนยมาร์หาจังหวะยิงปั่นจากหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งหลุดกรอบไป
จากนั้นในนาทีที่ 28 ทีมแซมบ้าซึ่งเริ่มเน้นโจมตีทางฝั่งซ้ายก็ได้เสียวอีกเมื่อเนยมาร์ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ฮัลค์ปราดเข้าซัดมุมแคบ เดือดร้อนให้ฮาร์ทต้องตาลีตาเหลือกออกมาปัดป้อง
นาทีที่ 31 เป็นออสการ์บ้างที่ได้กระทุ้งอย่างถนัดถนี่จากแถวสอง แต่ฮาร์ทยังเหนียวกระโจนไปปัดพ้นกรอบได้เยี่ยมโดยนาทีเดียวกันนี้ทีมเยือนต้องส่งโคลลงไปแทนเบนส์ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน
ถัดจากนั้น อังกฤษก็เริ่มมีลุ้นจากโอกาสโต้กลับ และนาทีที่ 40 หวิดนำก่อนด้วยซ้ำเมื่อจอห์นสันเติมขึ้นสูงไปไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้วัลค็อตต์ตะบันเต็มข้อ แต่เซซาร์ทิ้งตัวปัดได้หวุดหวิด จบครึ่งแรกเกมจึงยุติที่สกอร์ 0-0
ครึ่งหลังบราซิลเปลี่ยนมาร์เซโล่กับแอร์นาเนสลงเล่นแทนฟิลิเป้ หลุยส์กับหลุยซ์ กุสตาโว่ แต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้นแม้จะบุกได้มากกว่า
ถัดมาในนาทีที่ 56 ทีมเมืองกาแฟก็ดึงออสการ์ออกให้ลูคัส มูร่าลงไปแทน และพริบตาเดียวในนาทีต่อมาก็เป็นผลเมื่อแอร์นาเนสบรรจงปั่นยิงจากหน้าเขตโทษแล้วบอลชนเสา เฟร็ดจึงปรี่เข้าเก็บตกคนเดียวจากสิบหลาตุงตาข่ายพาเจ้าถิ่นนำ 1-0 จนได้
ทรี ไลอ้อนส์แก้ลำในนาทีที่ 62 ด้วยการเปลี่ยนจอห์สันออกให้อ๊อซ์เลด แชมเบอร์เลนลงไปแทนพร้อมขยับโจนส์ลงไปสวมบทแบ็คขวาเพื่อเน้นเกมรุก
จากนั้นอีกสามนาที มิลเนอร์ก็ลากบอลจากกราบขวาตัดเข้ามาซัลโวหน้าเขตโทษกระทบซิลวาเปลี่ยนทิศออกนอกกรอบ และจากลูกเตะมุมรูนีย์ก็โขกจากหกหลาสะบัดหลุดเสาสองอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 67 สิงโตคำรามก็สอยตาข่ายคืนจนได้เมื่ออ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลนวิ่งเข้าเก็บตกจากหน้าเขตโทษระยะ 22 หลาส่งบอลพุ่งผ่านเซซาร์เข้าเสียบเสาตีเสมอให้อาคันตุกะ 1-1
นาทีที่ 73 บราซิลส่ง แฟร์นานโด ลงไปแทน ฮัลค์
นาทีที่ 79 สิงโตคำรามมาได้ประตูแซงนำจากการซัดสุดสวยของ เวย์น รูนีย์ ที่กระชากบอลหนีการประกบของแข้งแซมบ้าก่อนตะบันด้วยเท้าขวาบริเวณกลางกรอบเขตโทษบอลโค้งเข้าสามเหลี่ยมหมดปัญญาที่ เซซาร์ จะป้องกัน ทีมเยือนนำ 2-1
เลยผ่านมาถึงนาทีที่ 82 ขุนพลแซมบ้า มาไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2 จาก เปาลินโญ่ ที่ปักหลักยืนวอลเล่ย์สุดสวยระยะประมาณ 15 หลาในกรอบเขตโทษทีมเยือนบอลพุ่งทะแยงมุมเข้าไปไม่เหลือซากหมดเวลาทั้งสองฝ่ายจึงเสมอกันไปแบบสุดมันส์ 2-2
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บราซิล : ชูลิโอ เซซาร์ , ดานี่ อัลเวส , ติอาโก้ ซิลวา , ดาวิด ลุยซ์ , ฟิลิเป้ หลุยส์ (แอร์นาเนส น.46) , หลุยซ์ กุสตาโว่ (มาร์เซโล่ น.46) , เปาลินโญ่ (คัลไดโร่ แบร์นาร์ด น.84) , ฮัลค์ (แฟร์นานโด น.73 ) , เนยมาร์, ออสการ์ (ลูคัส มูร่า น.56) , เฟร็ด (เลอันโดร ดามิเยา น.80)
สำรอง :โอลิเวียร่า เจฟเฟอร์สัน , ลูคัส มาร์ตินส์ , โมไรร่า ฌอง , ดานเต้ , อารัวโช่ เรแวร์ , ดีเอโก้ คาวาเลียรี่
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท , เกล็น จอห์นสัน (อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น.62) , แกรี่ เคฮิลล์ ,ฟิล จากิลก้า , เลห์ตัน เบนส์ (แอชลีย์ โคล น.31) , ฟิล โจนส์ , ไมเคิ่ล คาร์ริค ,แฟร้งค์ แลมพาร์ด , ธีโอ วัลค็อตต์ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.84) , เวย์น รูนีย์ , เจมส์ มิลเนอร์
สำรอง : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ , อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ , โจลีออน เลสค็อตต์ , เจอร์เมน เดโฟ
ผู้ตัดสิน : วิลมาร์ โรลดัน (โคลอมเบีย)
สรุปผลฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ
- แอลจีเรีย ชนะ บูร์กินา ฟาโซ 2 - 0
- ไอร์แลนด์ ชนะ จอร์เจีย 4 - 0
- ยูเครน เสมอ แคเมอรูน 0 - 0
- สหรัฐฯ ชนะ เยอรมัน 4 - 3
- บราซิล เสมอ อังกฤษ 2 - 2
03:00 น. ฮอนดูรัส Vs อิสราเอล